IT CITY เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ชูความเติบโตยั่งยืนระยะยาว มอบประสบการณ์เหนือระดับสินค้าและบริการให้ ‘มากกว่า’ เสริมแกร่งธุรกิจ ประกาศร่วมมือ AIS ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

IT CITY เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ชูความเติบโตยั่งยืนระยะยาว มอบประสบการณ์เหนือระดับสินค้าและบริการให้ ‘มากกว่า’ เสริมแกร่งธุรกิจ ประกาศร่วมมือ AIS ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์

 


IT CITY เปิดแผนธุรกิจปี 2568 ผ่านความร่วมมือระหว่างพันธมิตร ‘AIS’ เสริมแกร่งครอบคลุมทุกมิติสินค้า-บริการ-สิทธิประโยชน์ พร้อมมุ่งกลยุทธ์ ‘O2O’ เพิ่มประสบการณ์ช้อปแบบไร้รอยต่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

                                                                                    


คุณโสภณ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทฯ วางแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวร่วมกัน ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส (AIS) ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับ พร้อมสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มลูกค้าไอที ซิตี้ และ AIS ในด้านต่างๆ ดังนี้


• ลูกค้าไอที ซิตี้สามารถเปิดเบอร์ AIS ใหม่ พร้อมรับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษค่าเครื่อง ผ่านหน้าร้าน IT CITY ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ

• ลูกค้าเก่ารายเดือนของ AIS สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดพิเศษค่าเครื่อง ผ่านหน้าร้าน IT CITY ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เช่นกัน

• ลูกค้า IT CITY ที่ใช้บริการ AIS ยังจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น สิทธิ์ส่วนลดในการซื้อสินค้าอื่น ๆ ภายในร้าน การเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในอนาคต ฯลฯ


“ความร่วมมือระหว่างไอที ซิตี้ และ AIS เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้า โดย AIS ถือเป็นเครือข่ายมือถืออันดับหนึ่ง ที่มีความครอบคลุมและเสถียรภาพสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งไอที ซิตี้ มองเห็นศักยภาพของการเป็นพันธมิตรกับ AIS ในฐานะเอ็กซ์คลูซีฟ พาร์ทเนอร์ ในครั้งนี้ จะเป็นการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กร เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”

คุณโสภณ เผยอีกว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจบริษัทในปีนี้ ยังมองหาโอกาส และความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายอื่น ๆ ที่ร่วมสนับสนุนทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคให้ได้รับประสบการณ์ด้านความพึงพอใจอย่างสูงสุดให้กับกลุ่มลูกค้าตลอดทั้งปี


นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงครั้งนี้เรามีความ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ IT CITY ในฐานะผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีแบบครบวงจรของประเทศมาเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานเพื่อสามารถส่งมอบสินค้าและบริการดิจิทัลที่เข้าใจทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์พร้อมสิทธิพิเศษให้ดียิ่งขึ้น


ด้วยจุดแข็งของ IT CITY ที่มีสาขาครอบคลุมกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ทำให้การทำงานร่วมกันครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นที่ 1 ตัวจริง ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการลูกค้า ที่นอกเหนือจากการดูแลทั้งการใช้งานมือถือ และเน็ตบ้านเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่มแล้ว เรายังร่วมกับ IT CITY ตั้งจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถนำขยะ e-Waste มาฝากทิ้ง นับเป็นการยกระดับความร่วมมือจากเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ สู่พันธมิตรที่ขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนอีกด้วย”

ด้าน คุณเกษม ศรีเลิศชัยพานิช รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “สำหรับกลยุทธ์หลักที่จะใช้สำหรับส่งเสริมการขายในปี 2025 เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ


1. การเปิดตัวประกันสมาร์ทโฟน Max Protection by IT CITY ซึ่งเป็นประกันความคุ้มครองทุกมิติ ที่ดีที่สุดในตลาด โดยลูกค้าสามารถเคลมผ่านหน้าร้านเครือ IT CITY ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยเป็นประกันความคุ้มครองสมาร์ทโฟนใน 5 มิติ ประกอบด้วย

• เปลี่ยนเครื่องทันที ใน 30 วัน

• ประกันหน้าจอแตก จอเบิร์น 2 ครั้ง ใน 2 ปี

• ประกันเครื่อง ซ่อมได้ใน 2 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

• ประกันแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ใน 2 ปี

• ดูแลซอฟต์แวร์ตลอดอายุการใช้งาน

2. การนำระบบสะสมคะแนนลูกค้า ภายใต้ชื่อ IT CITY Reward มอบความคุ้มค่าให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด จากทุกการใช้จ่ายซื้อสินค้าทุกหมวด ทั้งสินค้าไอที สมาร์ทโฟน อุปกรณ์เสริมไอทีและสมาร์ทโฟน ภายในร้านเครือ IT CITY ทุกสาขา โดยทุกยอดใช้จ่าย 100 บาท ที่ จะได้รับ 1 คะแนน IT CITY Reward อีกทั้งคะแนนดังกล่าวสามารถใช้แลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งแลกรับส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งถัดไป หรือแลกของรางวัลพิเศษ ซึ่งจะมีแคมเปญออกมาตลอดทั้งปี

ปัจจุบัน ไอที ซิตี้ มีจำนวนสาขาในรูปแบบที่หลากหลายกว่า 300 สาขา แบ่งเป็น IT CITY, CSC, ACE นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Brand shop ที่บริษัทได้รับสิทธิบริหารอีกหลายแห่ง และบริษัทมีการวางแผนพัฒนาช่องทางจำหน่ายในรูปแบบ O2O (Online-to-Offline) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการซื้อสินค้าและบริการของไอทีซิตี้ได้อย่างไร้รอยต่อมากที่สุดโดยในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทเตรียมให้ลูกค้าสามารถจอง/ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.itcity.in.th และสามารถรับสินค้าได้ที่หน้าร้านได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งช่องทางอีคอมเมิร์ซ ให้เติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายราว 5% ของช่องทางออฟไลน์ เติบโตขึ้น 2% จากปี 2566 และได้พัฒนาระบบสมาร์ท เวาเชอร์ (Smart Voucher) พร้อมเพิ่มกลุ่มสินค้าที่ใช้งานร่วมกับ Smart Voucher มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการแลกสินค้าเพิ่มมากขึ้น”

คุณโสภณ กล่าวต่อว่า “ในปีนี้ บริษัทฯ เตรียมลงทุนในการขยายสาขาใหม่อีกหลายแห่ง พร้อมวางแผนทบทวนปรับเปลี่ยนสาขาในบางทำเล เพื่อรักษาผลดำเนินการและกำไรในภาพรวม พร้อมวางแผนปรับปรุงสื่อหน้าร้านและรูปแบบการวางสินค้าหน้าร้านทั้งหมดให้ทันสมัยและดึงดูดลูกค้ามากขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์เรือธงในการทำตลาดของ IT CITY ที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet) 58%, 2.สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices) 27% และ 3.สินค้าอุปกรณ์เสริมไอที (IT Accessory) 7%

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนกำไรมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet) 48%, 2.สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices) 20% และ 3. สินค้าอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet Accessory) 16%

ปัจจุบัน IT CITY แบ่งกลุ่มสินค้า ออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.สินค้าอุปกรณ์ไอที (IT Devices), 2.สินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet), 3.สินค้าอุปกรณ์เสริมไอที (IT Accessory) 4.สินค้าอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแทบเลต (Smartphone/ Tablet Accessory) และ 5.ซิมการ์ด และการเปิดเบอร์

สำหรับภาพรวมตลาดสินค้า/อุปกรณ์ไอทีประเทศไทยในปี 2568 คาดยังมีแนวโน้มขยายตัว จากปัจจัยหลักการ

เข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะเข้ามาอยู่ในรูปแบบฟีเจอร์ต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ชิดผู้บริโภค และได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว มีส่วนผลักดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนขยายตัวต่อเนื่องจากในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทต่อการทำการตลาดของแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำต่างๆ ภาพรวมตลาดของสินค้าสมาร์ทโฟน จากเดือนมกราคม - พฤศจิกายน ชี้ให้เห็นว่าในเชิงของมูลค่ามีการเติบโต 3.1% และ Unit เติบโตขึ้น 5.6% ซึ่งคาดการณ์ว่าการเติบโตในปี 2568 ยังเป็นทิศทางเชิงบวก ภาพรวมของตลาดไอที ในช่วงเวลาเดียวกัน ในเชิงของมูลค่ามีการเติบโตติดลบ -7.7% และ Unit เติบโตติดลบขึ้น -4% ยังเป็นเทรนที่ติดลบ แต่ก็เรียกได้ว่าโตกลับขึ้นมาจากปี 2566 ที่ตลาดติดลบ Double Digit ซึ่งคาดการณ์ว่าการเติบโตในปี 2568 ยังสามารถเติบโตกลับมาในระดับที่เทียบเท่ากับปี 2566 เป็นอย่างน้อย ขณะที่ตลาดคอมพิวเตอร์ในไทยคาดว่าจะมีความต้องการขยายตัวสูงขึ้น หลังจากผู้ผลิตชิปชั้นนำได้เปิดตัวเทคโนโลยี AI อาทิ Intel Core Ultra, Ryzen Ai และ Nvidia RTX 5000 Series เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ในภารกิจต่างๆ ได้ชาญฉลาดและรวดเร็วขึ้น ซึ่งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ชั้นนำต่างนำเทคโนโลยีจากผู้ผลิตชิปเหล่านี้มาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค

“จากทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทฯในปีนี้ ยังเน้นเพื่อรองรับแนวโน้มดังกล่าวที่เกิดขึ้นพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาร้านค้าที่สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มีความหลากหลายและให้ความคุ้มค่า พร้อมบริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึงการขยายโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลายในเชิงลึก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักผลักดันให้ธุรกิจของบริษัท เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน” คุณโสภณ กล่าวทิ้งท้าย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad