งานสัมมนา “
FOLLOW THE FUTURE 2024” ภายใต้แนวคิด “UNRAVEL THE NEW ERA รู้ทันอนาคต…ไขรหัสโลกยุคใหม่” จัดขึ้นโดย Trader KP และ Business Tomorrow เพื่ออัปเดตโลกที่กำลัง เปลี่ยนไป เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และเทรนด์ธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิม
ภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศมากกว่า 15 ท่าน มาให้ความรู้ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การลงทุน ธุรกิจ ความมั่นคงและการต่างประเทศ รวมถึง Networkingกับเพื่อน ๆ นักลงทุนและ ผู้เชี่ยวชาญ ที่มาแบ่งปันความรู้ ทักษะ และประสบการณ์
นายพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ได้ร่วมขึ้นบรรยาย ภายใต้หัวข้อ “Unraveling World Changing Technologies ไขรหัสเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
มูลค่าตลาดของสินทรัพย์ชั้นนำ (Top Assets by Market Cap จาก companiesmarketcap.com ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน) จะเห็นว่า Bitcoin ก้าวขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลก ด้วยมูลค่ากว่า 1.886 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตัวเดียวที่สามารถแข่งขันกับ สินทรัพย์ แบบดั้งเดิม เช่น ทองคำ หรือบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Microsoft ตามมาด้วย สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Ethereum ที่ก้าวขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 26 ของโลก ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ทางเลือกในการลงทุน แต่ยังเป็นการแสดงถึงโอกาสในการเป็นสินทรัพย์ที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งใน พอร์ตการลงทุน
ประเด็นถัดมาที่น่าสนใจคือการเติบโตของจำนวน Address หรือผู้ถือ Bitcoin ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องในช่วงปี 2021 ถึงปี 2024 (ข้อมูลจาก Glassnode) โดย ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2024 มีจำนวน Address ทั้งหมด 1.34 พันล้าน เพิ่มขึ้น 8.15% เมื่อเทียบกับต้นปี แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin และการขยายตัวของฐานนักลงทุน นอกจากนี้ การกระจายตัวของผู้ถือยังสะท้อนถึงความหลาก หลายของผู้ลงทุนตั้งแต่นักลงทุนรายย่อยจนถึงนักลงทุนรายใหญ่
ในปีนี้ การพัฒนาที่สำคัญในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้น ได้แก่ การอนุมัติ Bitcoin และ Ethereum ETFs โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐ (SEC) ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การยอมรับในระดับรัฐบาล เช่น กรณีของประเทศเอลซัลวาดอร์ และผลกระทบจากการเลือกตั้ง ในสหรัฐฯ ยิ่งช่วยผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Asian Private Banker ได้พูดถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรจับตามองและอาจเป็นผลบวกต่อ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลคือการโอนย้ายความมั่งคั่งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ (Greatest Wealth Transfer) ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 15 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีทรัพย์สิน สุทธิสูง (UHNW) ในภูมิภาคเอเชีย ที่มักจะมอบหมายความมั่งคั่งให้แก่คนรุ่นใหม่ การเปลี่ยนแปลงดัง กล่าวเป็นโอกาสสำคัญที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทในฐานะทางเลือกการลงทุนที่ทันสมัย
สุดท้ายจากผลการสำรวจในสหรัฐฯ ที่จัดทำโดย CFA Institute, FINRA Investor Education Foundation, Zeldis Research พบว่า Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในช่วงอายุ 18-25 ปี ให้ความสนใจใน การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากที่สุด โดยมีถึง 56% ของผู้ลงทุนในกลุ่มนี้เลือกสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin และ NFT เป็นตัวเลือกหลัก สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลในหมู่คนรุ่นใหม่ และแนวโน้มที่สินทรัพย์ประเภทนี้จะกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญในอนาคต
หมายเหตุ คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต หรือผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดำเนินงาน ในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น