ส. กุ้งไทย เผยผลผลิตกุ้งไทยปี 2567 ลดลง จากปัญหาโรคระบาด ราคากุ้งตกต่ำ ขอ 2,000 ล้าน แก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ส. กุ้งไทย เผยผลผลิตกุ้งไทยปี 2567 ลดลง จากปัญหาโรคระบาด ราคากุ้งตกต่ำ ขอ 2,000 ล้าน แก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง

 


ส. กุ้งไทย เผยผลผลิตกุ้งไทยปี 2567 ลดลง จากปัญหาโรคระบาด ราคากุ้งตกต่ำ ขอ 2,000 ล้าน แก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง  ชมรัฐฯ ประกาศแก้ปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาโรคอย่างเป็นรูปธรรมใน 3 ปี เพื่อกลับมาผลิตกุ้งไทยคุณภาพสูง 400,000 ตัน สู้ตลาดโลก 



วันนี้ (11 ธันวาคม 2567) นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ประกอบด้วย นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคม และประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคมฯ และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ นายปรีชา สุขเกษม อุปนายกสมาคมฯ และนายพิชญพันธุ์ สลิลปราโมทย์ กรรมการบริหารสมาคมกุ้งไทยและประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงสถานการณ์กุ้งของไทย ปี 2567 ว่า ผลผลิตกุ้งเลี้ยงโดยรวม อยู่ที่  270,000  ตัน ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาโรคระบาด สภาพอากาศแปรปรวน กระทบคุณภาพลูกกุ้ง และการเลี้ยงของเกษตรกร ราคากุ้งตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนชะลอการลงกุ้ง ชื่นชมรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งได้ประกาศนโยบายการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ เสนอของบ 2,000 ล้าน แก้ปัญหากุ้งทั้งระบบ เน้นแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 3 ปี หยุดความเสียหายกว่า 600,000 ล้าน เพิ่มผลผลิตกุ้งคุณภาพ 400,000 ตัน ทวงคืนมูลค่าการส่งออก 50,000 ล้าน กลับเข้าประเทศ

 


นายเอกพจน์ ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตกุ้งของไทยปี 2567 ว่า ปริมาณผลผลิตกุ้งคาดว่าจะได้ประมาณ 270,000 ตัน ลดลงร้อยละ 4 จากปีที่แล้ว เป็นผลผลิตกุ้งจากภาคใต้ตอนบน ร้อยละ 37  ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน ร้อยละ 23 จากภาคตะวันออก ร้อยละ 20  จากภาคกลาง ร้อยละ 10  ภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย ร้อยละ 10 ส่วนผลผลิตกุ้งทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ  5.04 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 4 โดยผลผลิตจากประเทศผู้ผลิตหลักทั้งจีน เอกวาดอร์ อินเดีย เวียดนาม ลดลงทุกประเทศ ดังแสดงในตารางที่   

 


ส่วนการส่งออกกุ้งเดือน ม.ค. – ต.ค. ปีนี้อยู่ที่ปริมาณ 109,048  ตัน มูลค่า 33,954 ล้านบาท ปริมาณลดลง ร้อยละ 1 ส่วนมูลค่าลดลง ร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกปริมาณ 109,663  ตัน มูลค่า 36,284 ล้านบาท” (ดังแสดงในตารางที่ ‚) 

 

นายบรรจง  นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคม และประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคตะวันออกคาดการณ์ผลผลิตประมาณ 53,900 ตัน คิดเป็นร้อยละ 20 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 20 เนื่องจากเกษตรกรปล่อยกุ้งลดลง และชะลอการลงกุ้ง ปัญหาโรคระบาด EHP ตัวแดงดวงขาว และโรคตายด่วน อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปีเกษตรกรเริ่มลงกุ้งต่อเนื่องเพราะราคาจูงใจ  สำหรับสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคกลางผลผลิตประมาณ 26,900 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงร้อยละ 19 ช่วงไตรมาสแรกการเลี้ยงดี แต่ไตรมาสที่สองและสาม ประสบปัญหาโรคขี้ขาว และสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้อัตรารอดต่ำ ลูกกุ้งไม่เพียงพอ ราคากุ้งค่อนข้างดี โดยเฉพาะตลาดในประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรมีการเตรียมตบ่อเพื่อลงกุ้งมากขึ้น 

 

นายปกครอง  เกิดสุข อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอันดามัน คาดการณ์ผลผลิตประมาณ 61,100 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 7 โดยมีความเสียหายจากโรคตัวแดงดวงขาวในช่วงเปลี่ยนฤดู และปัญหาเชื้อโรคปนเปื้อนในแหล่งน้ำธรรมชาติ เกษตรกรมีการวางแผนการเลี้ยงโดยลดความหนาแน่น เพื่อลดความเสี่ยงการเลี้ยงช่วงปลายปี บางส่วนเปลี่ยนไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องโรค  

 

นายปรีชา  สุขเกษม อุปนายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวถึงผลผลิตกุ้งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย ปริมาณ 28,400 ตัน คิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ลดลงร้อยละ 2 ปัญหาหลักคือ ปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะขี้ขาว และ EHP ทำให้เกษตรกรต้องจับกุ้งก่อนกำหนด และสภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้การเลี้ยงกุ้งยากขึ้น เกษตรกรต้องปรับตัวโดยการพักบ่อนานขึ้น ลดความหนาแน่นในการเลี้ยงกุ้งเพื่อลดความเสี่ยง

 

นายพิชญพันธุ์   สลิลปราโมทย์ กรรมการบริหารสมาคม และประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงผลผลิตกุ้งพื้นที่ภาคใต้ตอนบนประมาณการผลผลิต 99,700 ตัน คิดเป็นร้อยละ 37  ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยเกษตรกรลงกุ้งเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาเนื่องจากราคากุ้งปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศแปรปรวนส่งผลให้การเลี้ยงยากขึ้น และพบเชื้อในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกษตรกรให้ความสำคัญกับระบบการป้องกันโรคมากขึ้น”

 

“ความเสียหายที่อุตสาหกรรมเผชิญมาตลอดสิบกว่าปี จากปัญหาโรคระบาด EMS หรือโรคตายด่วน ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรพยายามทุ่มเททุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และความช่วยเหลือจากกรมประมง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาโรคระบาดได้ สิ่งที่ภาครัฐต้องทำอย่างเร่งด่วน และเป็นข้อเสนอของพันธมิตรผู้เลี้ยงกุ้งไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 19 องค์กรเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่มีมติร่วมกันในการยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงเกษตรฯ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับการตอบรับจากกระทรวงฯ โดยได้มีการประกาศยกระดับเรื่องการแก้ปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ เป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่ทำให้ผมเริ่มมีความหวังว่าจะเห็นผลการดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรม โดยพันธมิตรผู้เลี้ยงกุ้งไทยเสนองบประมาณสำหรับการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมกุ้ง 2,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเรื่องโรคกุ้งภายในสามปี เพื่อหยุดความเสียหายประมาณ 600,000 ล้าน ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เพื่อเอา 50,000 ล้านกลับมา 


สิ่งที่เกษตรกรเรียกร้อง และรัฐบาลต้องช่วยเหลือเพราะวันนี้เกินกำลังของพวกเราแล้วคือ การแก้ปัญหาเรื่องโรคให้ได้ โดยรัฐต้องมีมาตรการในการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ปัญหาโรคให้ได้ภายใน 3 ปี ซึ่งหากรัฐบาลทำเรื่องนี้สำเร็จ เกษตรกรจะสามารถบรรลุเป้าหมายผลผลิต 400,000 ตัน ซึ่งเป็นผลผลิตคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรหลักสำคัญที่ทำรายได้กลับคืนมาให้กับประเทศได้อีกครั้งอย่างแน่นอน ” นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว 

 

 

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad