บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 67 โตแรง อานิสงส์ภาครัฐเดินหน้าเบิกจ่ายงบค้างท่อ หลังพ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ผ่าน พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดงบ Q2/67 กวาดรายได้ 161.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.72% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ฟากผู้บริหาร “ภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล” มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามแผน พร้อมลุยโปรเจครัฐ 1.3 พันล้านบาท รวมถึงเมกะโปรเจคที่เตรียมเปิดประมูลในช่วงปลายปีหลายพันล้านบาท เติม Backlog ที่มีกว่า 650 ล้านบาท หนุนรายได้ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าโตก้าวกระโดด
นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) (SPREME) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 มีรายได้รวม 161.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.44 ล้านบาท หรือ 28.72% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานให้กับภาครัฐ
และเอกชนคู่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานร่วมกับภาครัฐ หลังพ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ผ่าน
โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 650
ล้านบาท ผลักดันผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้เติบโตต่อเนื่อง
“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
จากการทยอยรับรู้รายได้งานในมือ และการเข้าร่วมประมูลโครงการของภาครัฐมูลค่ากว่า
1.3 พันล้านบาท
ซึ่งเป็นงานที่เรามีความเชี่ยวชาญและได้รับงานประมูลอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า
20 ปี ที่ผ่านมา และมีโอกาสได้งานมากกว่า 60-70% สนับสนุนรายได้ในปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย"
นอกจากนี้
ในช่วงปลายปี 67 ยังมีแผนลงทุนโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายปี และจะเปิดประมูลในปี 68
ซึ่งบริษัทฯพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ
และมีความพร้อมในทุกๆ ด้านทั้งในเรื่องของประสบการณ์
และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง หลังเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ประมาณ 0.39 เท่า ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
SPREME
กล่าวอีกว่า จากฐานทุนที่แข็งแกร่ง
บริษัทฯพร้อมเดินหน้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม
สร้าง New S-Curve โดยอยู่ระหว่างการเจรจา
กับพันธมิตรที่เตรียมเข้าลงทุน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ System
Integrator (SI) และยังรวมถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์
รองรับแผนเข้ารุกตลาดประมูลงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเมืองอัจฉริยะ (Smart
City) และงานประมูลภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ (Public
Safety) ผลักดันธุรกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
เติบโตก้าวกระโดดสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น