กรุงเทพฯ ประเทศไทย – บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (S Hotels and Resorts PCL.: SHR) ผู้นำด้านการบริหารงานโรงแรมและรีสอร์ทระดับนานาชาติในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (Singha Estate PCL.: S) ฉลองการเปิดตัว “โซ/ มัลดีฟส์” (SO/ Maldives) รีสอร์ทสุดหรูสไตล์แฟชั่นอย่างเป็นทางการ รีสอร์ทแห่งที่ 3 ของอาณาจักร “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” (CROSSROADS Maldives) ที่เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมกับการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อนแบบครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวบนมหาสมุทรอินเดีย ตอกย้ำความสำเร็จการลงทุนเชิงกลยุทธ์ และยกระดับประสบการณ์การเข้าพัก รวมทั้งสร้างอัตราการเติบโตและรายได้แบบยั่งยืนให้กับ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รสอร์ท จำกัด (มหาชน) ในปี 2567และปีต่อ ๆ ไป พร้อมทั้งยกระดับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบริการของมัลดีฟส์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ครอสโร้ดส์
มัลดีฟส์ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน
พ.ศ. 2562 เป็นโครงการที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมัลดีฟส์
ประกอบด้วยรีสอร์ท 3 แห่ง ได้แก่
“ทราย ลากูน มัลดีฟส์, คูริโอ คอลเลคชั่น บาย ฮิลตัน” (SAii Lagoon Maldives, Curio
Collection by Hilton) ทีได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนสำหรับคู่รัก
ครอบครัว และกลุ่มเพื่อนที่มองหาความเงียบสงบ และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย “ฮาร์ดร็อค โฮเทล
มัลดีฟส์” (Hard
Rock Hotel Maldives) รีสอร์ทที่ได้รับแรงบันดาลใจที่มาจากวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมไปถึงกลิ่นอายดนตรีแบบต้นตำรับ
อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะลืมเลือน และ “โซ/
มัลดีฟส์” (SO/ Maldives) รีสอร์ทระดับไฮเอนด์บนเกาะส่วนตัว เป็นสวรรค์ของนักเดินทางผู้หลงใหลในแฟชั่นและศิลปะ
โดย
รีสอร์ททั้งสามสไตล์อันโดดเด่นนี้ เชื่อมต่อกับ “เดอะมาริน่า แอท ครอสโร้ดส์” (The Marina @ CROSSROADS)
ศูนย์รวมกิจกรรมอันหลากหลายของ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ตั้งแต่ทางเดินบนชายหาดยาวกว่า
800 เมตร เรียงรายไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ บาร์ บีชคลับ ร้านค้าบูติก ศูนย์สุขภาพและสปา
กีฬาทางน้ำ ศูนย์ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น คิดส์คลับ รวมถึงท่าจอดเรือยอทช์ 30 ลำ ไปจนถึงศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม
(Maldives Discovery Centre) และศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre)
ที่มุ่งมั่นด้านการศึกษาและอนุรักษ์ชีวิตใต้ท้องทะเลให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและครบครัน ทำให้ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์
เปรียบได้กับสวรรค์ของนักเดินทางที่ไม่มีใครเทียบเท่า เป็นการตั้งมาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นเลิศในการบริการและการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ
“โซ/ มัลดีฟส์” โครงการร่วมทุนมูลค่ากว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ของ เอส
โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในเครือสิงห์ เอสเตท และ Wai Eco World Developer (WEWD) กลุ่มธุรกิจชั้นนำ
ดำเนินงานโดย เอนนิสมอร์ (Ennismore) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการต้อนรับและบริการที่มีคอนเซปต์สุดสร้างสรรค์ ประกอบด้วยคอลเลกชั่นแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ท
รวมถึงร้านอาหารและบาร์ทั่วโลก ตั้งอยู่ใน เอ็มบูดู
ลากูน (Emboodhoo Lagoon) หมู่เกาะคาฟุ (Kaafu Atoll) พร้อมต้อนรับนักเดินทางด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที จากสนามบินนานาชาติมัลดีฟส์
เวลานา โดยสปีดโบ้ท ทำให้เดินทางมาพักผ่อนได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนช่วงสั้น ๆ หรือระยะยาว
จุดหมายปลายทาง ในธีม
“see-and-be-seen” (การเป็นที่รู้จักและโดดเด่น)
ถูกผสานเข้าไว้ในประสบการณ์ทั้งหมดของ โซ/ มัลดีฟส์ ประกอบด้วย
คอลเลกชั่น “Beach Villa” (วิลล่าริมทะเล) และ “Water
Villa” (วิลล่าเหนือน้ำ) ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากห้องแต่งตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟของสุดยอดนางแบบ
เพื่อให้เป็นสถานพักสุดเซ็กซี่และหรูหราเหนือระดับอย่างแท้จริง
รวมถึงประสบการณ์ด้านอาหารหลากหลายที่เป็นนวัตกรรมใหม่และสถานที่พบปะทางสังคม
และ “Lazuli Beach Club” (ลาซูลิ บีชคลับ) ที่ให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันคึกคักของปาร์ตี้ในยามค่ำคืน
สนุกกับการมิกซ์เพลงของดีเจระดับโลก ไปจนถึง “Wellness Camp”
ศูนย์การผ่อนคลายแบบองค์รวม และศูนย์ออกกำลังกายครบวงจรทันสมัย
“โซ/ มัลดีฟส์” รีสอร์ทแห่งใหม่สไตล์ “Island Couture” บนจุดหมายปลายทางสุดไฮป์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของผลการดำเนินงานและการเงินของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เพียง 4 เดือนหลังจากการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ (soft opening) โดย โซ/ มัลดีฟส์ มีจำนวนผู้เข้าพักเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าอัตราค่าห้องพักรายวันเฉลี่ย (ADR) ในปี 2567 นี้ จะอยู่ประมาณ 750 – 850 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ ADR สำหรับกลุ่มโรงแรมในมัลดีฟส์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15 - 20% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 เป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินงานที่กำหนดไว้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอกย้ำ SHR เรื่องศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดย RevPAR คาดว่าจะ เพิ่มขึ้น 25% ในปี พ.ศ. 2567
การขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สร้างรายได้ให้กับ เอส
โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โดยที่ เดอะมาริน่า แอท
ครอสโร้ดส์ มีร้านอาหารและบาร์อันหลากหลาย
14 แห่งพร้อมให้บริการแก่ผู้เข้าพักที่
ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ อาทิ “เดอะ บีช คลับ” (The Beach Club) จุดศูนย์รวมร้านอาหารสุดพรีเมี่ยมริมทะเล
สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบวิวทะเล เจลาโต้บาร์ ร้านค้า และบาร์ รวมถึงแบรนด์ระดับโลก อาทิ Ministry of
Crab (ติดอันดับ Asia’s 50 Best Restaurants) และฮาร์ดร็อคคาเฟ่ (Hard Rock Café) บาร์ชื่อดัง นักชิมและผู้เข้าพักมีตัวเลือกการรับประทานอาหารที่น่าประทับใจมากมาย
ส่งผลด้านยอดขายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี พ.ศ.
2566 และการเปิดตัว โซ/ มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ
The Citronelle Club แหล่งรับประทานอาหารที่หรูหราที่ให้บริการตลอดทั้งวัน ไปจนถึง “Hadaba” ร้านอาหารตะวันออกกลางอันเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ท
และ “Lazuli Beach Club” เพื่อผลักดันรายได้อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นอีก
15% จากรีสอร์ทในมัลดีฟส์ของกลุ่มในปี
พ.ศ. 2567 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายโดยรวมของ เอส
โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในการเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ห้องพัก (non-room revenue) ทั้งหมดในปีนี้
โดยรวมแล้วการดำเนินงานในมัลดีฟส์ คิดเป็น 27% ของรายได้ทั่วโลกของ เอส
โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสหราชอาณาจักร หลังจากเปิดตัว โซ/ มัลดีฟส์ อย่างเป็นทางการในเดือนนี้
คาดว่าสัดส่วนรายได้จากมัลดีฟส์จะเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในปี พ.ศ. 2567
โดยมียอดการจองล่วงหน้าที่แข็งแกร่งสนับสนุน
ไมเคิล มาร์แชล (Mr. Michael Marshall) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “การเปิดตัว โซ/ มัลดีฟส์ อย่างยิ่งใหญ่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในขณะที่เราได้เสร็จสิ้นเฟสแรกของ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ อย่างเป็นทางการ ด้วยแนวคิดไลฟ์สไตล์ที่หรูหราและแฟชั่นชั้นสูง รีสอร์ทพิเศษแห่งนี้จะช่วยเติมเต็มที่พักสองแห่งของเราที่มีอยู่ในมัลดีฟส์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และขยายความน่าดึงดูดของจุดหมายปลายทางรีสอร์ทแบบครบวงจรที่มีหลายเกาะแห่งนี้ให้กว้างขึ้นอีก ด้วยอัตราเฉลี่ยที่สูงและประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ รวมถึงงานปาร์ตี้และกิจกรรมที่ร้อนแรงที่สุดในมหาสมุทรอินเดีย โซ/ มัลดีฟส์ จะช่วยยกระดับรายได้ของกลุ่มของเราอย่างมีนัยสำคัญ สร้างผลประโยชน์ระยะยาวสำหรับธุรกิจทั้งหมดของเรา และสำหรับอุตสาหกรรมการบริการในมัลดีฟส์”
ครอสโร้ดส์
มัลดีฟส์
ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ได้มากกว่า 211,300 รายและกระจายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่
ๆ เช่น การเดินทางแบบครอบครัวและกลุ่มบริษัท รวมทั้งคว้ารางวัลระดับนานาชาติมากมาย
ได้แก่ “Best
Conference Resort Hotel” ของ ทราย ลากูน มัลดีฟส์ รางวัล “Best Resort/Hotel” ของ ฮาร์ดร็อค โฮเทล
มัลดีฟส์และ “Best MICE
Destination” สำหรับ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์
บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
และบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการเมกะโปรเจ็กท์ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ดำเนินงาน
และอนุรักษ์หมู่เกาะอันงดงามแห่งนี้ สอดคล้องกับปรัชญาความยั่งยืนของบริษัท โดยสิงห์
เอสเตท บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล ประกอบธุรกิจ 4 กลุ่ม
ได้แก่ ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน นิคมอุตสาหกรรม และโรงแรม
ซึ่งรวมถึงการพัฒนาจุดศูนย์รวมการพักผ่อนและไลฟ์สไตล์แห่งแรกในมหาสมุทรอินเดีย
หรือ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์สุดยิ่งใหญ่แห่งนี้อีกด้วย โดยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 มีการลงนามข้อตกลงสำคัญกับกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สิ่งแวดล้อม และพลังงานของมัลดีฟส์ (Maldives’
Ministry of Climate Change, Environment & Energy) เพื่อปกป้องเกือบหนึ่งในสาม (31%) ของพื้นที่โครงการทั้งหมด
โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการอนุรักษ์ตามพื้นที่ที่มีประสิทธิผลอื่น ๆ (Other Effective Area-Based Conservation Measures หรือ OECMs) หัวใจของโครงการนี้คือศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล
ซึ่งมีห้องปฏิบัติการชีววิทยาทางทะเลที่ทันสมัย และดำเนินโครงการที่สำคัญ เช่น การขยายพันธุ์ปะการัง
ตลอดจนโครงการอนุรักษ์สัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ยังได้รับการรับรอง Green Globe™ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ที่ www.shotelsresorts.com และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook, Instagram, YouTube or LinkedIn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น