วันที่ 10 สิงหาคม 2566 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุ
ข้อตกลงร่วมการประชุมเชิงปฏิบั ติการ (Workshop Agreement) เป็นรูปแบบหนึ่งของการจั ดทำมาตรฐานของสำนั กงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยคณะทำงาน BCG Model ได้นำแนวทางนี้ จัดประชุมจัดทำข้อตกลงร่วมระหว่ างภาคส่วนต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทานขวด PET ประกอบด้วยผู้ผลิตเม็ดพลาสติก ผู้แปรรูป เจ้าของสินค้า (Brand Owner) กลุ่มผู้จัดเก็บขยะ ธุรกิจรีไซเคิล หน่วยงานราชการ องค์กรวิชาการ และสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาขวดเครื่องดื่ม PET สี ที่มีแนวโน้มจะถูกละเลย ไม่ถูกเก็บเข้าสู่ระบบรีไซเคิล เนื่องจากขวดเครื่องดื่ม PET สี รีไซเคิลได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ าต่ำ ส่งผลต่อราคารับซื้อ
ข้อมูลจากผู้ประกอบธุรกิจ พบว่า ขวดเครื่องดื่ม PET สี มีราคา 1 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ขวด PET ใส มีมูลค่า 6 – 7.50 บาท/กิโลกรัม จึงส่งผลต่อแรงจูงใจในการรับซื้ อและการเก็บรวบรวม และอาจจะไม่คุ้มค่าเมื่อรวมกั บต้นทุนการขนส่ง และนำไปสู่ การประกาศคณะกรรมการกำหนดมาตรฐา นการตรวจสอบและรับรอง โดยได้กำหนดข้อตกลงร่วมการประชุ มเชิงปฏิบัติการขวดเครื่องดื่ม PET ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ ประกอบการได้รับทราบ และเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วกัน โดยมีแนวคิดที่สำคัญ คือ “การคงความใสและไม่มีสี ของขวดพลาสติก PET เพื่อคงมูลค่าของพลาสติก PET ให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ในการเก็บกลับเข้ าสู่กระบวนการรีไซเคิล”
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภั ณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ข้อตกลงร่วมฯ เรื่อง “ขวดเครื่องดื่ม จากพลาสติก PET ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” หรือข้อตกลงร่วม 4002-2565 นี้ ใช้กลไกการจัดทำในรูปแบบข้ อตกลงร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติ การ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ สามารถตอบสนองต่อความจำเป็นเร่ งด่วนในสถานการณ์ปัจจุบันได้ โดยข้อตกลงร่วมฯ นี้ จะเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตขวดเครื่ องดื่มจากพลาสติก PET เพื่อให้ผลิตขวดเครื่องดื่ มจากพลาสติก PET ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ โดย สมอ. คาดหวังว่าจะเป็นเครื่องมื อและกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่ อนและการพัฒนาประเทศด้ วยโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม สู่การลดการใช้ทรัพยากร การลดปริมาณของเสียและปริ มาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนทำให้ประเทศไทยเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขัน ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้ านเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับภูมิ ภาคและสากล
ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า Workshop Agreement ฉบับนี้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเสริ มภารกิจงานของกรมฯ และถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่ างยิ่ง ที่ภาคเอกชนให้ความสำคั ญในการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อม เป็นการดำเนินการที่ช่วยส่งเสริ มให้มีการดึงขวด PET กลับมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิ ลได้เพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยได้ตั้งเป้ าหมายไว้ในแผนปฏิบัติการด้ านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ว่าภายในปี 2570 ขวดพลาสติก (ทุกชนิด) จะต้องไม่พบในสถานที่ฝั งกลบขยะและถูกนำเข้าสู่ระบบรี ไซเคิล 100%
นายธงชัย ศิริธร อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่ องดื่มไทย กล่าวว่า สมาคมฯ เป็นศูนย์รวมผู้ประกอบธุรกิ จเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ปัจจุบันมีบริษัทสมาชิกทั้งสิ้น 47 บริษัท ซึ่งสมาคมฯ ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิ จที่ตระหนักถึงการสร้างผลกำไร ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่ งแวดล้อมและสังคม โดยสมาคมฯ ยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมเป็นส่ วนหนึ่งในการสนับสนุนให้สมาชิ กของสมาคมฯ และผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคั ญในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่ อการนำกลับมาใช้ใหม่ การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อม (Eco-Design) ภายใต้รายละเอียดตามข้อตกลงร่ วมนี้ และสมาคมฯ ยังสนับสนุนให้สมาชิกของสมาคมฯ พิจารณาการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิ ตจากพลาสติกแปรใช้ใหม่ (rPET) ร่วมด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีสมาชิ กของสมาคมฯ บางรายเริ่มดำเนินการแล้ว
นายชัยยุทธิ์ พลเสน นายกสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้ อของเก่า กล่าวว่า สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้ อของเก่า เป็นองค์กรผู้แทนของร้านรับซื้ อของเก่าและซาเล้งรับซื้อของเก่ าทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และรายย่อย ซึ่งมีจำนวนกว่า 30,000 ราย ทั่วประเทศ โดยสมาคมฯ ยินดีให้การสนับสนุนและยืนยั นเจตนารมณ์ ในการส่งเสริมการผลิตและการใช้ ขวดเครื่องดื่มจากพลาสติก PET ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ยังคงคุณค่าของขวดเครื่องดื่ มไว้หลังการบริโภค และเป็นประโยชน์ต่อวงการรีไซเคิ ลได้มากยิ่งขึ้น โดยข้อตกลงร่วมฯ นี้ จะเป็นเครื่องมือที่สำคั ญในการส่งเสริมภารกิจของสมาคมฯ ในการร่วมจัดการขยะตั้งแต่ต้ นทางก่อน เพื่อลดปริมาณขยะที่จะหลุ ดลอดออกไปสู่สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิ จหมุนเวียน (Circular Economy) ต่อไป
นายวิรัช เกลียวปฏินนท์ กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตเม็ ดพลาสติก ผู้แปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพลาสติก ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ หลากหลายและตอบสนองความต้ องการของผู้บริโภค โดยข้อตกลงร่วมนี้ จะเป็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิ จหมุนเวียนของประเทศ และตอบสนองความต้องการใช้ผลิตภั ณฑ์ที่ผลิต หรือมีส่วนผสมจากพลาสติกรีไซเคิ ลที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้ นในอนาคต กลุ่มฯ พลาสติก ยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริ มการผลิตและการใช้ขวดเครื่องดื่ มจากพลาสติก PET ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนแนวคิด และการดำเนินงานเศรษฐกิจหมุนเวี ยน (Circular Economy) ที่เป็นแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่ างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุ ด และพร้อมสนับสนุน ส่งเสริมให้สมาชิก มีการผลิตและใช้วัตถุดิบที่เป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสื่อสารไปยังผู้มีส่วนเกี่ ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อขยายแนวคิดนี้ให้ครอบคลุ มทั้งวงจรผลิตภัณฑ์
นางสาวเข็มอัปสร สิริสุขะ (เชอรี่) นักแสดง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในมุมมองผู้บริโภค และผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสั งคม เห็นว่าประเทศไทยประสบกับปั ญหาการจัดการขยะน้อยกว่า 10% ของขยะพลาสติกที่สามารถนำกลั บเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้ ซึ่งหมายความว่าต้องเป็ นขยะพลาสติกที่มีมูลค่าเท่านั้น จึงจะมีคนเก็บและนำส่งต่อไปได้ ส่วนตัวจึงมองว่าขวดพลาสติก PET เมื่อกลายเป็นขยะพลาสติกแล้ว สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรี ไซเคิลได้มากกว่าถุงและแก้ วพลาสติก ทางบริษัทธุรกิจเพื่อสั งคมของเราจึงเลือกขวดพลาสติ กในการบรรจุข้าวแทนถุงพลาสติกที่ ใช้กันอยู่ทั่วไป
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่ งประเทศไทยและสำนั กงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของประเทศ ให้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็ นรูปธรรม และร่วมแสดงเจตนารมณ์ถึงความมุ่ งมั่นในการดำเนินธุรกิจบนความรั บผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม ตลอดจนเสริมสร้างความตระหนักรู้ และความรับผิดชอบร่วมกันนี้ ไปตลอดของวงจรชีวิตของบรรจุภั ณฑ์ ตั้งแต่ผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค และสามารถหมุนเวียนทรัพยากรที่ มีคุณค่านี้ กลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น