สจล.คิดค้น ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ ชงดื่มหรือป้อนผ่านสายยาง เตรียมเฟส 2จับมืออุตสาหกรรม ผลิตเชิงพาณิชย์ รับมือสังคมสูงวัย - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สจล.คิดค้น ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ ชงดื่มหรือป้อนผ่านสายยาง เตรียมเฟส 2จับมืออุตสาหกรรม ผลิตเชิงพาณิชย์ รับมือสังคมสูงวัย

 


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
 (สจล.) โดยคณะอุตสาหกรรมอาหารและ คณะแพทยศาสตร์  สร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารทางการแพทย์เพื่อรองรับสังคมสูงวัย คิดค้นนวัตกรรม อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย (Powdered Enteral Feeding for Aging Society) ปลอดภัย มีคุณภาพและคุณค่าโภชนาการ เก็บรักษาได้ยาวนานกว่า 6 เดือน ไร้สารกันเสีย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้สูงวัยให้มีสุขภาพดี ส่งเสริมเศรษฐกิจในยุค Silver Economy ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงวัยที่มีมาตรฐานในระดับอุตสาหกรรม เตรียมเฟส 2 ร่วมมือภาคอุตสาหกรรมเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ ตอบสนองตลาดในประเทศและส่งออก


รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี 
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ สจล. ที่มุ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลกเพื่อคนไทยและมนุษยชาติ เราได้เล็งเห็นว่านับแต่ปี 2565 ประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 12.9 ล้านคน หรือ 20ของประเทศ และอีก 15 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ผู้สูงวัยจะมีสัดส่วน 28ของประชากรทั้งหมด ความสำคัญของการพัฒนาอาหารผงสำหรับชงดื่มหรือป้อนผ่านสายยางมุ่งรองรับสังคมสูงวัย จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ผู้บริโภคและผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบห่วงโซ่อาหารต้องคำนึงถึง เนื่องด้วยการทำงานของระบบการย่อยอาหารของคนสูงวัยที่อ่อนแอลง หรือลูกหลานอยู่ห่างไกลขาดคนดูแลโภชนาการ ทีม 5 นักวิจัยคณะอุตสาหกรรมอาหาร และ คณะแพทยศาสตร์ สจล. ประกอบด้วย รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล, ดร.อรชร เมฆเกิดชูนพ.อนวัช เสริมสวรรค์ผศ.ดร.คริษฐา อิ่มเอิบ และ Assist. Prof. Dr. Sri Charan Bindu Bavisetty ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรม อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย โดยบูรณาการองค์ความรู้ 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ และโภชนาการ ในแนวคิดที่จะผลิต อาหารสายยางชนิดผง ที่เป็นแบรนด์ของไทย ลดการนำเข้า ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยผ่านการใช้นวัตกรรม โดยงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)


รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล
 หัวหน้าโครงการวิจัย และคณบดี คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล. กล่าวว่า โดยทั่วไปอาหารทางสายยาง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.อาหารปั่นผสม (Blenderized Diet) ที่ต้อง ทำสด โดยฝ่ายโภชนาการในโรงพยาบาล ซึ่งมีอายุการใช้งานวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บได้นาน มีปัญหาเรื่องความข้นหนืดที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นสาเหตุทำให้ฟื้นตัวได้ช้า 2.อาหารสำเร็จรูปทางการแพทย์ (Commercial Formular) ผลิตภัณฑ์อาหารในรูปผงที่ใช้ละลายน้ำ เป็นโภชนบำบัดสำหรับผู้สูงอายุเฉพาะโรค ถ้าเป็นการนำเข้าจะมีราคาสูง


ทีมวิจัย สจล.มีแนวคิดสร้างสรรค์อาหารแบบผงด้วยเทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze Drying) สำหรับการบริโภคโดยชงดื่ม หรือละลายน้ำป้อนให้ผ่านสายยาง (Nasogastric Tube Feeding) ซึ่งเป็นการป้อนอาหารผ่านสายยางทางรูจมูกลงไปยังกระเพาะอาหาร สำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ แต่ระบบทางเดินอาหารยังทำงานปกติ ทีมวิจัยได้พัฒนาการเตรียมอาหารปั่นสด 7 สูตร ส่วนประกอบเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีแหล่งโภชนาการที่แตกต่างกัน แปรผันแหล่งของโปรตีนในสูตรอาหาร ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วเหลืองผง และเวย์โปรตีน รวมถึงส่วนประกอบต่างๆ เช่น แหล่งใยอาหารจากผักและผลไม้ เป็นต้น โดยมีการคำนวณสูตรอาหารทางสายยางให้มีการกระจายพลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย


ขั้นตอนการผลิต 
อาหารผงแบบฟรีซดราย (Freeze Drying) มีส่วนประกอบจากแหล่งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ นำวัตถุดิบทั้งหมดหั่นเพื่อลดขนาดวัตถุดิบและทำให้สุก ผสมวัตถุดิบเข้าด้วยกันตามสัดส่วน โดยเติมน้ำปั่นวัตถุดิบจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นแปรรูปด้วยเทคโนโลยี Freeze Drying ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง โดยดึงความชื้นหรือน้ำออกจากอาหาร ซึ่งเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากคงคุณค่าทางโภชนาการ มีสีสันตามธรรมชาติ ลดการทำลายเนื้อเยื่อและโครงสร้างสารอาหาร ทำให้อาหารผงมีคุณภาพ จากนั้นนำไปปั่นละเอียดเป็นผงตามขนาดที่กำหนดและบรรจุแพ็คสำหรับการบริโภค


ผลการวิจัยพบว่า ในจำนวน 7 สูตร อาหารแบบฟรีซดราย” สูตร BDเหมาะกับผู้สูงอายุมากที่สุด เนื่องจากคุณภาพมีความหนืด (Viscosity) ที่เหมาะสม และความสะดวกในการใช้งานเพียงละลายในน้ำ ก็ทำให้อาหารลื่นไหลผ่านสายยางได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ตกตะกอน ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการของอาหารฟรีซดรายแบบผงใน 1 มื้ออาหารมีปริมาณ 150 กรัม ละลายน้ำที่ 600 มิลลิลิตร ให้พลังงานจากโปรตีนร้อยละ 10 - 20 ไขมันร้อยละ 25 - 30 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 50 - 55 และใยอาหารร้อยละ 57.94 ให้พลังงาน 689.85 kcal เมื่อรับประทาน มื้อ จะให้พลังงาน 2,069 kcal ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน ที่สำคัญยังใช้วัตถุดิบทั้งหมดในประเทศ ต้นทุนการผลิตในระดับห้องปฏิบัติการต่ำ เฉลี่ยกรัมละ 0.22 บาท และมีราคาต้นทุนผลิตภัณฑ์อาหารสายยางแบบผงเฉลี่ยมื้อละ 33.30 บาท


จุดเด่นและประโยชน์ของนวัตกรรม
 การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางสายยางชนิดผงในประเทศไทยจะช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงอาหารแบบผงที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ด้านกระบวนการผลิตแบบ Freeze Drying มีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถคงคุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน เก็บรักษาได้นาน 6 เดือนขึ้นไป โดยไม่มีวัตถุกันเสีย มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าขนส่ง เสริมสุขภาพผู้สูงวัยตามหลักการแพทย์ โดยไม่เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลสูงในโลหิต หรือ เบาหวาน นับเป็นต้นแบบของการพัฒนาการเตรียมอาหารทางสายยางแบบผงที่ถูกต้องตามหลักการปฏิบัติที่ดี เพิ่มความปลอดภัย ลดโอกาสปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ สะดวกในการดูแลผู้สูงอายุและได้รับสารอาหารตามแผนการรักษาของแพทย์ ทดแทนการนำเข้า สามารถบริโภคได้ 2 วิธี คือ 1.ชงดื่มแทนมื้ออาหารหลักในผู้สูงวัยที่เบื่ออาหาร หรือทานอาหารได้น้อย หรือไม่มีเวลาหรือความพร้อมในการเตรียมอาหารที่มีคุณภาพ 2.ป้อนอาหารทางสายยาง ซึ่งความหนืดของอาหารผงเหมาะสม ช่วยให้ละลายน้ำง่ายและดูดซึมได้ดี

แผนงานในอนาคต คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล. เตรียมแผนสู่เฟส 2 การผลิตในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันเปิดให้เอกชนผู้สนใจลงทุนเพื่อขยายสู่ระดับอุตสาหกรรม นำองค์ความรู้ไปต่อยอดระบบการผลิตในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างเป็นแบรนด์ของคนไทยที่สามารถกระจายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้กว้าง ทั้งโรงพยาบาลและในครัวเรือน (Home-Use) ซึ่งจะทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ยิ่งถูกลง นอกจากนี้ยังสามารถนํางานวิจัยต้นแบบไปพัฒนาอาหารสูตรอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค หรือพัฒนาในด้านรสชาติและเนื้อสัมผัสสำหรับให้เป็น อาหารการแพทย์ทางเลือก เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทยอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad