บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR) เปิดงบปี 65 กำไรพุ่งแตะ 59.10 ล้านบาท รายได้ 1,256 ล้านบาท เทียบปีก่อน อานิสงส์ยอดขายเม็ดพลาสติกโตต่อเนื่อง -ประเดิมเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจการเกษตร บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.08 บาท /หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 13 มีนาคม 66 เอ็มดี "พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์" ส่งซิก รับงานประมูล Floating Solar ราว 200-300 ล้านบาทหนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง ปักหมุดปี 66 รายได้เติบโต 20 - 25%
นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) มีกำไรสุทธิ 59.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.76% เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 57.51 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.63% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,189 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 13.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% จากปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 5.16 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.63% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,189 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกที่มีคำสั่งซื้อในเทศกาลต่าง ๆ พร้อมทั้งเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร “ ถุงห่อ Magik growth ” และ “ ฟิลม์คัดกรองแสง ” เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
บริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System) และเป็นผู้ออกแบบติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์อย่างครบวงจร เช่น Solar roof, Solar farm, Storage Battary และระบบการจ่ายรถยนต์ไฟฟ้า (Ev charger)
“ผลประกอบการโดยรวมของปี 2565 บริษัทฯ ยังสามารถทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 /65 ยังเห็นกำลังซื้อจากคำสั่งซื้อสินค้าของกลุ่มลูกค้า Packaging ในธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก จากเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน ขณะที่เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจที่ได้ขยายไลน์ออกมาบางส่วนด้วย จึงทำให้ปี 65 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โต 10%”
นายพีรพันธ์ กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่าบริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 20–25 % โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่แตกไลน์ออกมา และรายได้หลักจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System)
ทั้งนี้ บริษัทฯมีการเข้าร่วมประมูลโครงการรวมมูลค่า 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆนี้ และคาดว่า จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/ 66 รวมทั้งยังมีการประมูลเพิ่มเติม และการร่วมมือกับพันธมิตรในการรับงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะที่ธุรกิจภาคการเกษตร “ ถุงห่อ Magik growth ” และ “ ฟิลม์คัดกรองแสง ” ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มรายได้จากธุรกิจเดิม นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจใหม่ และโอกาสการลงทุนใหม่ๆ อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น