ระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และหนึ่งในบรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด นั่นก็คือ กลุ่มนักดนตรีกลางคืน รวมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจผับบาร์ เนื่องจากมีมาตรการปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง เพราะว่าถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ทำให้นักดนตรีขาดรายได้จากการเล่นดนตรีในผับ และยังเสียโอกาสในการเล่นดนตรีในงานคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ อีกด้วย
จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์ ผู้บริหาร เลิฟอิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในฐานะคนทำงานวงการเพลง มีความเข้าใจและเล็งเห็นว่า “บรรยากาศวงการดนตรีบ้านเราตอนนี้ยังคงค่อนข้างเงียบมากๆ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการคลายล็อคและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เมื่อไหร่ ที่ผ่านมานักดนตรีกลางคืนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่สามารถทำการแสดงได้ ทำให้ไม่มีรายได้มาเป็นเวลานาน เลยคิดหาแนวทางที่ จะช่วยเหลือเพื่อน พี่น้อง นักดนตรี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน จนเกิดโปรเจ็กต์ “ไส้แห้งเฟส” ขึ้นมา โดยใช้พื้นที่ด้านหน้าลิโด้ ทำการแสดงและให้ทางเลิฟอิสฯ เป็นผู้จ้างนักดนตรี โดยมีค่าจ้าง 700/คน และต่อ1โชว์ มาเล่นดนตรีเสมือนว่าลิโด้เป็นร้านเล็กๆ กลางสยาม และอนุญาตให้กลุ่มนักดนตรีที่ลงชื่อสมัคร ได้พูดโปรโมทร้านที่ตนเคยเล่นเพื่อชักชวนผู้ที่ชื่นชอบการแสดงของวง ได้ไปติดตามต่อที่ร้านหรือช่องทาง Social Media ของทางวงได้
สามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัครของโปรเจ็กต์ “ไส้แห้งเฟส” ได้ที่ Facebook Page LOVEiS โดยการแสดงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1-6 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15.00-21.00 น. ณ ลานด้านหน้าลิโด้ คอนเน็คท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น