YLG เผยราคาทองคำยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ พุ่งสุดรอบเกือบ 9 ปี แนะลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์สใช้เงินลงทุนไม่ถึง 10%เพิ่มโอกาสทำกำไรสูง - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

YLG เผยราคาทองคำยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ พุ่งสุดรอบเกือบ 9 ปี แนะลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์สใช้เงินลงทุนไม่ถึง 10%เพิ่มโอกาสทำกำไรสูง

วายแอลจี เผยตลาดทองคำคึกคักหลังราคาพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ  9 ปี ที่ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุนักลงทุนเน้นลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตัวเลขผู้ติด COVID-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่อง มองระยะยาวยังมีโอกาสไปต่อ ส่วนในระยะสั้นอาจมีแรงเทขายทำกำไร ชี้ราคาปรับตัวลงเป็นโอกาสเข้าซื้อ แนะนักลงทุนสามารถเพิ่มทางเลือกการลงทุนช่วงทองแพงผ่านตลาด TFEX ด้วย โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส เหตุใช้เงินลงทุนไม่ถึง 10% ของมูลค่าสัญญา เพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนเงินที่ใช้ในการลงทุนทองคำแท่ง และเป็นเครื่องมือที่ดีในการบริหารความเสี่ยง

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำทั้งในตลาดโลกและในประเทศปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2563 ราคาปรับขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ซึ่งถือว่าปรับขึ้นมาจากต้นปีแล้วเกือบ 20โดยราคานี้ถือเป็นราคาที่ปรับขึ้นมาสูงสุดในรอบเกือบ ปี เท่ากับระดับราคาในเดือน กันยายน ปี 2554 สำหรับการปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยังคงมาจากปัจจัยความวิตกหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งต่อเนื่อง  ล่าสุดJohns Hopkins University ระบุว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งแตะ 60,021 ราย ในวันอังคารที่ 7 ก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทำให้ผู้ติดเชื้อในสหรัฐทะยานขึ้นสูงกว่า 3 ล้านราย ด้านความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนยังคงย่ำแย่จากประเด็นจีนเตรียมกำหนดข้อจำกัดวีซ่าต่อพลเมืองสหรัฐเพื่อเป็นการตอบโต้กรณีเปิดประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในทิเบต รวมถึงเรื่องความมั่นคงในฮ่องกง จึงทำให้มีแรงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากมีการผลิตวัคซีน COVID-19 สำเร็จ ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงมาได้  

การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในขณะนี้  อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนมีข้อจำกัดในด้านการลงทุน เพราะราคาที่สูงขึ้น ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนในการลงทุนทองคำแท่งที่สูงขึ้นตาม อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนทองคำผ่านตลาด TFEX ทั้งในแบบโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส(Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้าในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ  ทำให้นักลงทุนไม่ต้องมีความกังวลด้านความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน ส่วนนักลงทุนที่มีความคุ้นเคยในการลงทุนในรูปของเงินบาทนั้นก็สามารถลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์ส(Gold Futures) ได้เช่นกัน  ซึ่งในส่วนนี้แม้จะเป็นการซื้อขายด้วยเงินบาทแต่สามารถเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยง สำหรับการลงทุนในทองคำและกลุ่มร้านทอง  ที่สำคัญ  คือ  การลงทุนผ่าน TFEX ยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในทองคำแท่ง เพราะวางเงินลงทุนเพียงไม่ถึง ใน 10 ของมูลค่าสัญญา เช่น หากนักลงทุนทำการลงทุนในทองคำแท่งมูลค่า 10 บาททองคำ ต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 260,000 บาท แต่ถ้าลงทุนใน TFEX จะใช้เงินลงทุนไม่ถึง 20,000 บาท และหากในอนาคตราคาทองคำปรับขึ้นไปตามที่ลงทุนไว้ ก็สามารถทำกำไรได้ อีกหนึ่งความพิเศษของการลงทุนใน TFEX คือ สามารถทำได้ทั้งสภาวะที่ราคาทองเป็นขาขึ้นและขาลง

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ มองว่าราคาทองยังแกว่งตัวขึ้น  แต่ระยะสั้นแนะนำหาจังหวะขายทำกำไรช่วงราคา 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาผ่านได้ให้รอขายที่แนวต้านถัดไปที่ 1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวรับหากราคาทองคำปรับตัวลดลงให้ทยอยเข้าซื้อ 1,800-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และแนวรับถัดไปที่ 1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนใน TFEX ควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่อาจผันผวนได้  โดยแนะนำตั้งจุดตัดขาดทุนสถานะซื้อหากราคาหลุด 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อถอยจุดซื้อไปยังแนวรับถัดไป

สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures เพื่อเป็นอีกทางเลือกการลงทุน สามารถดูรายละเอียดได้ทาง  www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad