IHL มั่นใจธุรกิจฟอกหนังรองเท้าโตแกร่ง ลุยเปิดไลน์ผลิตในเวียดนามต่อเนื่อง หนุนรายได้ปี 63 โต 20% ตามแผน - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

IHL มั่นใจธุรกิจฟอกหนังรองเท้าโตแกร่ง ลุยเปิดไลน์ผลิตในเวียดนามต่อเนื่อง หนุนรายได้ปี 63 โต 20% ตามแผน

บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL) เปิดไลน์การผลิตหนังรองเท้าส่งเวียดนามต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายราย คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ หนุนรายได้ปี 63 เติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL) ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ ให้กับค่ายผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ในประเทศไทยและส่งออกจำหน่ายในหลายประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ซึ่งบริษัทฯ ยังมีคำสั่งซื้อสินค้า (ออเดอร์) ในการฟอกหนังรองเท้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯยังคงเป้าหมายในปีนี้ คาดว่าจะมีลูกค้าในส่วนธุรกิจฟอกหนังรองเท้า จำนวน 4 ราย และที่ผ่านมาสามารถปิดดีลกับลูกค้าไปแล้ว จำนวน 2 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอีกหลายราย โดยมั่นใจว่าจะสามารถสนับสนุนรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 20%

ธุรกิจฟอกหนังรองเท้ายังคงเปิดไลน์การผลิตอยู่ และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีการส่งตัวอย่างหนังรองเท้าสำหรับใช้ผลิตรองเท้าในช่วงซีซั่นของปีหน้าเพื่อนำเสนอต่อลูกค้าด้วย ส่วนธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ยังต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในแถบยุโรปและอเมริกา ซึ่งบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดมากขึ้น”

นายวศิน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 มีรายได้จากการขายและบริการ  377.29 ล้านบาท ลดลง 13.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และงานบริการที่ลดลง  บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 58.74 ล้านบาท  ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 4.29 ล้านบาท สาเหตุหลักที่กำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากผลจากการผลิตที่ลดลง ซึ่งบริษัทฯมีต้นทุนคงที่ที่สูงขึ้น จากค่าเสื่อมราคาของอาคาร เครื่องจักร และระบบโซลาร์รูฟ (Solar Roof)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad