วายแอลจีเผยราคาทองคำยังอยู่ ขาขึ้น แต่ระยะสั้นแนะแบ่งขายหากราคายั งไม่ผ่านแนวต้าน 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,700-26,850 บาท เผยระยะยาวมีลุ้นย้อนรอยวิ กฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ที่ราคาทองปรับตัวสูง 174% เหตุดอลลาร์อ่อนค่าจากนโยบายผ่ อนคลายเชิงปริมาณ(QE)และการลดดอ กเบี้ย รวมถึงความกังวลปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมแนะนักลงทุนที่ต้องการซื้ อทองใช้วิธีทยอยซื้อ เช่นซื้อสะสมแบบขั้นต่ำเริ่มต้น 10 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่ งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้แม้ทองคำจะเป็นขาขึ้ นโดยล่าสุดก็ได้ปรับตัวสูงสุ ดในรอบเกือบ 8 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกั งวลในการตัดสินใจในการลงทุนว่ าควรขายทำกำไรหรือถือครองต่อไป ในภาวะเช่นนี้ฝ่ายวิเคราะห์ของ YLG มีคำแนะนำให้นักลงทุนที่รั บความเสี่ยงได้มากควรถื อทองคำเอาไว้บางส่วน เพื่อรอลุ้นราคาทดสอบเป้ าหมายของปีนี้บริเวณ 1,788-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของช่วงเดือน ก.พ. ,ก.ย. และ ต.ค. ปี 2555 หรือ 27,500-27,600 บาทต่อบาททองคำ แต่หากไม่อยากแบกรับความเสี่ ยงอาจแบ่งทองคำออกขายทำกำไร เมื่อราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ แนวต้านบริเวณ 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,700-26,850 บาทต่อบาททองคำ สำหรับสัปดาห์นี้ ผู้ที่ต้องการเข้าซื้ออาจทยอยซื้ อสะสมหากราคาอ่อนตั วลงทดสอบกรอบแนวรับแรกบริเวณ 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,950 บาทต่อบาททองคำ โดยเผื่อเงินลงทุนไว้สำหรับเข้ าซื้อบริเวณแนวรับถัดไป 1,647 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,300 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่ องในระยะนี้มาจากเงินทุนไหลเข้ ากองทุน ETFs ทองคำทั่วโลก และการคาดการณ์ว่ าธนาคารกลางหลายแห่งทั่ วโลกจะดำเนินมาตรการกระตุ้ นเศรษฐกิจทางการเงินเพิ่มเติ มเพื่อรับมือกั บผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิ ดจากการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ เมื่อเทียบเคียงจากสถิติในอดีต หลังเกิดวิกฤตซับไพร์มในปี 2551 เป็นผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินทั้ งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ควบคู่ไปกับการอัดฉีดเงิน QE ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงกระตุ้นความวิตกว่าการอั ดฉีดเงินในปริมาณมากเข้าสู่ ระบบเศรษฐกิจอาจผลักดันให้เกิ ดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) ครั้งนั้น ราคาทองคำในตลาดโลกทะยานขึ้นสู งจาก 700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ำ สุดในเดือนพ.ย. 2551 ไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติ การณ์ที่ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนก.ย. 2554 นั่นเท่ากับว่ าราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสู งขึ้นมากถึง 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 174% ส่วนราคาทองคำในประเทศปรับตัวสู งขึ้นจาก 12,100 บาทต่อบาททองคำในเดือนพ.ย. 2551 สู่ระดับ 26,850 บาทต่อบาททองคำในเดือน ก.ย. 2554 หรือ ปรับตัวขึ้นมากถึง 14,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ คิดเป็น เพิ่มขึ้น 121%
ดังนั้น หากพิจารณาจากสถิติ จึงมีความเป็นไปได้ที่ ระยะยาวราคาทองคำจะปรับขึ้นอี กมากตราบเท่าที่สภาพแวดล้ อมทางการเงินยังผ่อนคลายดังเช่ นปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ราคาจะสามารถขึ้นในเปอร์เซ็นต์ ที่มากเท่าหลังวิกฤตซับไพร์มได้ นั้นจะต้องมีการทะลุผ่านแนวต้ านสำคัญทางเทคนิคในระดับต่างๆ พร้อมกันนี้จะต้องอาศัยปัจจั ยพื้นฐานเข้ามาผลักดันเพิ่มเติม โดยเฉพาะความต้องการดอลลาร์ สหรัฐในฐานะสกุลเงินปลอดภัยที่ ดำเนินอยู่ในปัจจุบันจะต้ องบรรเทาลง ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการอ่ อนค่าของสกุลเงินและภาวะเงินเฟ้ อจะต้องเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดความวิตกดั งกล่าวในช่วงปี 2551
ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ต้ องการลงทุนในทองคำแต่มีเงินทุ นไม่มากนั้น สามารถเริ่มลงทุนด้วยการแบ่งซื้ อครั้งละ 10 บาท ผ่านโปรแกรม YLG GOLDSAVING หรือ บริการออมทองผ่าน www.ylggoldsaving.com ซึ่งใช้เงินลงทุนเพียงครั้งละ 10 บาทเท่านั้น โดยลักษณะของการออมอยู่ในรู ปแบบของการซื้อทองคำสะสมเริ่มต้ นเพียงครั้งละ 10 บาท จุดเด่นที่สำคัญ คือ ผู้ออมสามารถกำหนดราคาในการเข้ าซื้อทองคำได้เองจากการดู ราคาเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และสามารถเข้ามาซื้อทองคำในรู ปแบบการออมทองได้ในราคาที่ต้ องการตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ซื้อสามารถซื้อขายได้ทุกระดั บราคาไม่ว่าจะสะสมได้เท่าไหร่ก็ สามารถขายได้ แต่หากต้องการได้รับทองคำเก็ บไว้ผู้ออมจะต้ องสะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1 สลึง จึงจะสามารถไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือ จะออมต่อเนื่องเพื่อสะสมความมั่ งคั่งก็สามารถทำได้
นักลงทุนสามารถปรึกษาด้ านการลงทุนทองคำกับ YLG ได้ทางโทรศัพท์ 02-687-9888 รวมถึงสามารถติดตามบทวิเคราะห์ อัพเดทข่าวสารที่ส่งผลต่ อราคาทองคำ ข่าวโปรโมชั่น สัมมนา และข่าวประชาสัมพันธ์ของ YLG ผ่านทางหลากหลายช่องทาง อาทิ www.ylgprecious.co.th และ https://www.facebook.com/ YLGGroup
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น