7UP พร้อมในการสนับสนุนรัฐบาล ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเชื้ อไวรัสโควิด-19 ประกาศให้พนักงาน WFH ตั้งแต่ 26 มี.ค. 63 มีระบบไอทีรองรับหนุ นการทำงานมีประสิทธิภาพ ยอมรับกระทบยอดขายก๊าซLPGและน้ำ มัน หดตัวตามความต้องการใช้หลั งการเดินทางลด แต่ยันไม่ กระทบผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ยังแสดงตัวเลขเติบโต เหตุธุรกิจอื่นยังมีทิศทางที่ดี ทั้งในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคม พลังงานทดแทน กำจัดขยะและปรับปรุงคุณภาพน้ำ
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ7UP เปิดเผยว่า ด้วยวิกฤตการณ์การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง และเป็นเหตุให้รั ฐบาลออกพระราชกำหนดฉุกเฉิน(พ.ร. ก.ฉุกเฉิน) ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติส่ วนราชการ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม- 30 เมษายน 2563
พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมื อประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้ องกันโรค ควรงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขต และขอความร่วมมือให้อยู่ในที่พั กอาศัย ออกนอกบ้านด้วยความจำเป็นน้อยที่ สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ อไวรัส ช่วยแบ่งเบาการทำงานของคณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ
บริษัทฯในฐานะเป็นส่วนหนึ่ งของสังคมไทย ตระหนักถึงวิกฤติการณ์การแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อร่วมทำหน้าที่ ของประชากรไทย ทางคณะผู้บริหารและพนักงานพร้ อมให้ความร่วมมือกับรั ฐบาลในการจำกัดการเคลื่อนย้ ายของผู้คน เพิ่มระยะห่างทางสังคม เพื่อช่วยให้วิกฤตการณ์นี้ บรรเทาเบาบางลงอย่างเร็วที่สุด ด้วยการให้พนักงานของบริษั ทฯทำงานอยู่ที่บ้าน(WFH)ตั้งแต่ วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทฯมีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ มากเพียงพอต่อจำนวนพนักงานที่มี จำนวน 170 คน ขณะเดียวตั้งแต่ต้นปี 2563 บริษัทฯได้นำเทคโนโลยีมาประยุ กต์ใช้กับการทำงาน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อลดการใช้กระดาษ ซึ่งระบบดังกล่าวทำให้บริษั ทฯสามารถดำเนินการให้พนั กงานทำงานที่บ้านได้ทันกั บสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น การจัดประชุมผ่านโปรแกรมออนไลน์ ระบบอนุมัติและจั ดการเอกสารออนไลน์ รองรับการอนุมัติในเรื่องต่าง ๆ ของผู้บริหาร เพื่อให้การทำงานภายใต้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ อไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายสิทธิชัย กล่าวว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรั สโควิด-19 จะส่งผลให้การขนส่งและการเดิ นทางลดปริมาณลง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ความต้ องการใช้ก๊าซ LPG และ น้ำมันลดลงตามไปด้วย จึงกระทบต่อยอดขายก๊าซLPG และ น้ำมันซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิ จของบริษัทฯ แต่มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่ อผลประกอบการภาพรวมไตรมาส 1/2563 และมีทิศทางเป็นบวก เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้ าและงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจอื่นยั งคงสามารถให้บริการและดำเนิ นการได้ตามปกติ ทั้งในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจกำจัดขยะ และ ธุรกิจให้บริการปรับปรุงคุ ณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น