“วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” บิ๊กบอส PJW ส่งซิกธุรกิจปี 62 เข้าสู่โหมดการเติบโต อานิสงส์ลูกค้ากลุ่มออโต้ บรรจุภัณฑ์นม กดปุ่มสั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่ อเนื่อง พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิ จในประเทศจีนเต็มสูบ หนุนยอดขายปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 8-10%
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษั ทในปีนี้ คาดว่ายอดขายจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุ นจากการออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ และอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาฟื้ นตัว หลังหมดโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้ค่ายรถยนต์มี การออกโมเดลรถใหม่ ส่งผลให้มีออเดอร์ผลิตชิ้นส่ วนเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันเริ่มเห็นสัญญาณกำลั งซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มฟื้ นตัว รวมทั้งบริษัทฯมีแผนจะขยายลงทุ นในโรงงานพ่นสี เฟส 1 เนื่องจากได้รับออร์เดอร์เพิ่ มเติมในโมเดลที่หลากหลายมากขึ้ นและมีปริมาณมากเพียงพอสำหรั บการลงทุนเพิ่มโดยคาดว่าก่อสร้ างแล้วเสร็จภายในปี 2562 ถือเป็นอีกปัจจัยหนุนที่ทำให้ ผลประกอบการปีนี้เข้าสู่ โหมดของการเติบโต
นอกจากนี้ ในส่วนของสินค้าประเภทบรรจุภั ณฑ์น้ำมันหล่อลื่น เริ่มมีสัญญาณที่ดีเช่นเดียวกัน จากปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้ าเริ่มทยอยกลับมาแล้ว ดังนั้นน่าจะมีทิศทางที่ดีต่ อเนื่อง รวมไปถึงสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ นม และนมเปรี้ยว ปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อที่เพิ่ มขึ้นเช่นเดียวกัน
ประธานกรรมการบริหาร PJW กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิ จในประเทศจีน ปัจจุบันมี บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก (เจียงซู) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิ ตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งอยู่ที่มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ขณะนี้ลูกค้าได้อนุมัติให้บริษั ทเข้าทำสัญญาตั้งแต่ในไตรมาส 3/61 โดยสัญญามีระยะเวลา 6 ปี และต่อสัญญา 2 ปี คาดว่าปีหน้าจะเริ่ม มียอดขายทยอยเข้ามาประมาณ 100 ล้านบาท และประมาณการไว้ว่าจะเพิ่มเป็น 300 ล้านบาทในปี 2563
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 2,986.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 291.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.82 และ ขาดทุนสุทธิรวมเท่ากับ 11.75 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากในไตรมาส 3 บริษัทมีผลขาดทุนถึง 33.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ ายการทดสอบและขึ้นชิ้นงานตัวอย่ างของผลิตภัณฑ์ใหม่ของอุ ตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ ยว รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้ นมากของชิ้นงานพ่นสีจากประสิทธิ ภาพการผลิตที่ยังไม่ได้ ตามมาตรฐานและต้นทุนของเสียในช่ วงเริ่มต้นโครงการผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 เดือนแรก และยังมีปัญหาการพัฒนาแม่พิมพ์ ที่ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ ายในการแก้ไขชิ้นงาน และทำให้การเริ่มออกตลาดผลิตภั ณฑ์ใหม่ล่าช้าไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้ถู กแก้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4บริษัทกลับมามีผลกำไร 6.8 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่ องในปี 2562 นี้ ส่วนภาพรวมยอดขายของลูกค้าทั้ งกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และโรงพ่นสี และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์น้ำมั นหล่อลื่นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเนื่ องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ หลายรายการเริ่มมีงานขายเชิ งพาณิชย์แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณดีที่ทำให้ผู้บริ หารเชื่อมั่นว่าในปี 2562 ผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น