กรุงเทพฯ 27 กุมภาพันธ์ 2562 – แอร์วานูอาตู สายการบินแห่งชาติของประเทศวานู อาตู ซึ่งเป็นรัฐหมู่เกาะในมหาสมุ ทรแปซิฟิก ได้ลงนามยืนยันคำสั่งซื้อเครื่ องบิน เอ220 จำนวน 4 ลำ กับแอร์บัส (ประกอบด้วย รุ่น เอ220-100 จำนวน 2 ลำ และเอ220-300 จำนวน 2 ลำ) คำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสครั้ งแรกในครั้งนี้ทำให้แอร์วานู อาตูกลายเป็นสายการบิ นรายแรกในแถบแปซิฟิกที่เลือกใช้ เครื่องบินรุ่น เอ220
แอร์วานูอาตู มีฐานการบินอยู่ที่ท่ าอากาศยานนานนาชาติบาวเออร์ฟิ ลด์ ในเมืองหลวงพอร์ทวีล่า โดยปฏิบัติการบินไปยังท่ าอากาศยาน 26 แห่ง ทั้งในประเทศและระหว่ างประเทศไปยังประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิจิ และนิวแคลิโดเนีย สายการบินนี้เริ่มให้บริการบิ นตั้งแต่ปี 2530 และมีบทบาทสำคั ญในการวางรากฐานให้ประเทศวานู อาตูเป็นดั่งจุ ดหมายปลายทางทางด้านการท่องเที่ ยวและการลงทุน โดยในปัจจุบันสายการบินมีฝูงบิ นประกอบด้วยโบอิ้ง 737 และเอทีอาร์ 72
นายดีเรค ไนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์ วานูอาตู กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นสายการบิ นแรกในแถบแปซิฟิกตอนใต้ที่ใช้ เครื่องบินรุ่นที่ยอดเยี่ยมที่ สุดอย่าง เอ220 เครื่องบินลำใหม่นี้จะถู กนำมาใช้ปฏิบัติการบินบนเส้ นทางในประเทศและระหว่ างประเทศในปัจจุบันของเรา ซึ่งรวมถึงเส้นทางบินใหม่บิ นตรงจากเมลเบิร์น สู่วานูอาตู แบบไม่แวะพักที่เพิ่งประกาศเปิ ดตัวไป และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ แผนการขยายเส้นทางบิ นในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้อี กด้วย”
“การสั่งซื้อ เอ220 ของแอร์วานูอาตู นับได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคั ญในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความสบายเหนือระดับของผู้ โดยสาร ในขณะเดียวกันก็ยังยึดถือในเรื่ องประสิทธิภาพของการใช้พลั งงานและสิ่งแวดล้อม การตัดสินใจของแอร์วานูอาตูที่ วางตัวให้เครื่องบิน เอ220 เป็นศูนย์กลางของแผนการขยายฝู งบินนั้นจะทำให้สายการบินก้าวล้ำ กว่าคู่แข่งไปอีกขั้น” คริสเตียน แชร์เรอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิ ชย์ของแอร์บัสกล่าว
ผู้โดยสารที่โดยสาร เอ220 จะได้สัมผัสกับห้องโดยสารที่พร้ อมมอบความสบายอันเหนือชั้น เก้าอี้โดยสารและหน้าต่างที่มี ขนาดกว้างที่สุดในตลาดเครื่องบิ นประเภทเดียวกัน ด้วยประสิทธิภาพและพิสั ยในการทำการบินของ เอ220 จะทำให้แอร์วานูอาตูสานต่ อการปฏิบัติการในปัจจุบันได้อย่ างราบรื่นและเริ่มแผนการเติ บโตซึ่งเป็นเสาหลักของเป้ าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจของวานู อาตู
เอ220 นั้นได้มอบประสิทธิภาพการใช้เชื้ อเพลิงที่ไม่มีใครเทียบได้ และยังนำหลักอากาศพลศาสตร์ที่ทั นสมัย ใช้วัสดุชั้นสูง และเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่นล่ าสุดของแพรทท์ แอนด์วิทนีย์ พีดับเบิลยู 1500จี มารวมกันเพื่อทำให้ สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงต่อที่ นั่งได้ถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเครื่องบินในยุคก่ อน ด้วยยอดคำสั่งซื้อจำนวน 530 ลำ ในปัจจุบัน ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ได้ชื่ อว่าเป็นเครื่องบินรุ่นที่มีส่ วนแบ่งในตลาดเครื่องบินขนาด 100-150 ที่นั่งมากที่สุด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีความต้ องการอย่างน้อย 7,000 ลำ ในอีก 20 ปีข้างหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น